แนะนำ 7 รถมือสองน่าใช้ในปี 2564 งบประมาณไม่เกิน 1 แสนบาท

แนะนำ 7 รถมือสองน่าใช้ในปี 2564 งบประมาณไม่เกิน 1 แสนบาท

     ในช่วงที่เศรฐกิจย่ำแย่เช่นนี้ เชื่อว่าหลายคนคงกำลังมองหารถยนต์คันใหม่เพื่อใช้ในการประกอบอาชีพ บางครอบครัวเพียงเพื่ออยากจะลดภาระรายจ่ายยอมขายรถใหม่ป้ายแดงที่ต้องแบกรับเงินผ่อนระยะยาวหลายปี แล้วอยากหารถมือสองราคาเบาๆ วันนี้ ตลาดรถมือสอง.com จะมาแนะนำ 7 รถมือสองน่าใช้ในงบประมาณราว 1 แสนบาท(บวก ลบ) มาฝากกันครับ

1. Honda Civic (โฉม Dimension) รุ่นปี 2001-2005

     ใครที่เป็นสาวกฮอนด้าจะหันไปเล่น Civic โฉม Dimension ก็ย่อมได้ ด้วยชื่อเสียงรุ่น Civic เป็นที่ยอมรับ ถือเป็นรถที่ไม่จุกจิก ซ่อมง่าย มีของแต่งให้เลือกมากมาย โดยให้เน้นไปที่เครื่องยนต์ 1.7 ลิตร ที่สามารถหาอะไหล่ได้ง่ายและประหยัดกว่าเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร

2. Honda Jazz รุ่นปี 2004-2007

     แม้ว่า Honda Jazz โฉมแรกจะออกมาหลายปีพอสมควร แต่ก็ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในกลุ่มวัยรุ่น ด้วยหน้าตาที่ดูสวยงามลงตัว สามารถจับต้องได้ในราคาเพียงแสนกว่าบาท จนเริ่มกลับมาเป็นที่นิยมสำหรับวัยรุ่นที่กำลังมองหารถคันแรก ข้อเสียของรถรุ่นนี้อยู่ที่ระบบเกียร์ CVT อาจมีปัญหาในหลายคัน แต่ปัจจุบันสามารถหาอู่ซ่อมได้ไม่ยากเย็น ขอแค่ให้ได้สภาพรถเดิมๆ ไม่ผ่านการชนหนักหรือจมน้ำมาเป็นพอ

3. Toyota Soluna Vios รุ่นปี 2003-2007

     Toyota Vios โฉมแรกถือเป็นหนึ่งในอดีตขวัญใจของคนไทยเลยก็ว่าได้ ด้วยรูปลักษณ์ที่ยังคงสวยงามพอไปวัดไปวามาจนถึงปัจจุบัน มีจุดเด่นเรื่องความไม่จุกจิก ประหยัดน้ำมัน ขนาดบอดี้กะทัดรัด คล่องตัว เครื่องยนต์และเกียร์ทนทานหายห่วง จะนำไปติดแก๊สก็ไม่มีปัญหา แถมยังขึ้นชื่อเรื่องช่วงล่างที่ดียิ่งกว่ารุ่นหลังๆ เสียอีก

4. Toyota Corolla Altis (โฉมหน้าหมู) รุ่นปี 2001-2007

     Toyota Corolla โฉม Altis ตัวแรกเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในช่วงนั้น ด้วยหน้าตาที่ดูทันสมัยขึ้นอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับโฉม AE111 หรือที่คุ้นหูกันในชื่อ “ไฮทอร์ค” ด้วยขนาดตัวถังกว้าง หาอะไหล่ง่าย และนำไปติดแก๊สได้ จึงเห็นได้ว่ารถแท็กซี่กว่า 90% ในเมืองไทยจะเลือกใช้ Toyota Corolla Altis 
     ปัจจุบันยังหาสภาพดีๆ ได้ไม่ยาก เน้นมองหารถที่ยังอยู่ในสภาพเดิม ไม่เคยทำแท็กซี่มาก่อน (ไม่เคยติดแก๊สมาก่อนด้วยก็จะดี) ส่วนเรื่องบำรุงรักษาถือว่าสบาย เนื่องจากอะไหล่มีให้เลือกแทบทุกร้าน จะเข้าอู่ที่ไหนก็ซ่อมได้

5. Nissan Sunny NEO รุ่นปี 2001-2006

     ถ้ารู้สึกว่าตัวเลือกด้านบนทั้ง 2 ยี่ห้อยังมีราคาแพงไปหน่อยแล้วล่ะก็ แนะนำให้หันไปเล่น Nissan Sunny NEO ซึ่งปัจจุบันมีราคาราวครึ่งแสน ไปจนถึงหลักหมื่นปลาย มีข้อดีอยู่ที่ความทนทานและการบำรุงรักษา แต่อาจด้อยในเรื่องความแรงของเครื่องยนต์ รวมถึงต้องเช็กสนิมและสีปูดที่เริ่มเกิดขึ้นในหลายๆ คัน

6. Nissan Cefiro (A33) รุ่นปี 2001-2003

     งบประมาณหลักแสนก็สามารถหารถรุ่นใหญ่ได้ไม่ยาก เนื่องจาก Nissan Cefiro โฉมสุดท้ายรหัส A33 ปัจจุบันมีราคาเริ่มต้นไม่ถึง 1 แสนบาท แลกกับความหรูหราเต็มพิกัด เป็นรถสไตล์รถผู้บริหารในสมัยนั้น มีจุดเด่นที่เครื่องยนต์ VQ แบบ 6 สูบ ที่แม้ว่าจะกินน้ำมันไปนิด แต่ก็แลกกับความนุ่มเงียบชวนฝันอย่างที่หาไม่ได้ในคู่แข่ง ถ้ายังอยากเล่นรุ่นนี้ขอให้เน้นสภาพเดิมๆ ประวัติการบำรุงรักษาต้องถึง แล้วคุณจะได้รถดีๆ ใช้ไปอีกยาวนาน

7. Mitsubishi Lancer Cedia (โฉมไมเนอร์เชนจ์) รุ่นปี 2006-2011

     Mitsubishi Lancer โฉม Cedia ถือเป็นหนึ่งในรุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างยาวนาน มีจุดเด่นอยู่ที่ความสดใหม่กว่าเจ้าตลาด แถมยังมีรุ่นติดแก๊ส CNG มาจากโรงงานให้เลือก แม้ว่าจะเป็นเกียร์ CVT แต่หากเจ้าของเดิมบำรุงรักษาอย่างดี ก็อาจมีอายุยาวนานมาจนถึงปัจจุบันโดยไม่จำเป็นต้องโอเวอร์ฮอล์ นอกนั้นไม่มีอะไรจุกจิก ยังสามารถหาอะไหล่ได้ไม่ยากนัก

     อย่างไรก็ดี การเลือกซื้อรถมือสองจำเป็นต้องมีความรู้ในการดูรถเป็นอย่างดี จะได้ไม่เจ็บตัวและเจ็บใจในภายหลัง ทางที่ดีควรพาผู้ที่มีความรู้ไปช่วยเลือกได้ จะช่วยลดโอกาสเจอรถย้อมแมวได้ครับ


สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม